An authentic Italian winemaking art from the ‘black dust’ of the Murgia region
Founded in 2002 through the determination of owner and oenologist, Filippo Cassano made it his mission to revive the long tradition of his family associated with the agriculture and wine traditions.
Established over three decades ago by Filippo Cassano and his family, the POLVANERA winery estate takes pride in producing traditional and pure wine through single-variety vinification to bring out the best and most authentic characteristics for the wine and terroir.
Polvanera, meaning ‘black dust’ in the Apulian dialect, utilizes a winemaking art passed down through the generations. The main objective of the winery is to preserve and adapt the ancient traditions of winemaking to match the modern organic farming and winery methods.
Polvanera is located in the region of Murgia, which is surrounded by vineyards as far as the eyes can see with white oaks and separated by dried stone walls. While extreme and karst, the region is considered one of the most fertile, making it perfect for growing grapes since the Roman era.
The farmers in the region use bush training for the older vineyards and spur pruning methods for the newer ones.
POLVANERA winery takes utmost pride in its mission to preserve the winemaking art while enhancing the old ways by harmonizing with the most modern techniques while protecting the authenticity of their flavors and aroma.
The vineyards span over 750 rais of land, growing only local strains of grapes including Primitivo, Aleatico, Aglianico, Bianco d/Alessano, Maresco, Machione, Moscato, Minutolo, and Falanghina.
Once harvested and processed, the wines rest in stainless steel barrels. The red wines are bottled then aged in a carved limestone cellar underground with a constant temperature of 13°. The barrels also have no elevation to avoid tainting the elegant scents of the native varieties. This method protects and ensures that the wine will deliver its most authentic tastes.
The company receives numerous awards from Slow Wine to Gambero Rosso for their efforts and successes in producing outstanding wines in 2021.
POLVANERA wines have been available in Thailand since 2020 through the support of the EU-funded project. They have been offering a selection of high-quality wines branded as LA MARCHESANA with a unique selection of signature bottles.
The brand officially launched in Thailand in Summer, offering a multitude of intriguing and educational masterclasses and tasting sessions in both Bangkok and Phuket.
รสชาติจากอิตาลีส่งตรงสู่ประเทศไทย
ศิลปะการผลิตไวน์อิตาลีแท้ๆ จากภูมิภาค Murgia ที่ได้รับการเรียกขานว่า ‘ฝุ่นดำ’
Filippo Cassano ก่อตั้งโรงกลั่นในปีปีพ.ศ. 2545 ด้วยความมุ่งมั่นและเชี่ยวชาญทางไวน์ พันธกิจของ Cassano คือการรื้อฟื้นประเพณีด้านการเกษตรกรรมและการทำไวน์ที่มีมาช้านานของครอบครัวเขา
โรงกลั่นไวน์ POLVANERA ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อสามทศวรรษก่อนโดยครอบครัวของ Filippo Cassano ทั้งครอบครัวมีความภาคภูมิใจในการผลิตเหล้าไวน์ในรูปแบบดั้งเดิม เพื่ออนุรักษ์เอกลักษณ์เด่นเฉพาะสายพันธุ์องุ่น เพื่อให้ได้กลิ่น ลักษณะ และรสชาติที่โดดเด่นของไวน์ในพื้นที่
คำว่า Polvanera มีความหมายว่า “ฝุ่นดำ” ในภาษาท้องถิ่นอะพิวเลี่ยน (Apulian dialect) การผลิตไวน์ในภูมิภาคนี้จะใช้ศิลปะการผลิตไวน์ที่ได้รับการสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยวัตถุประสงค์หลักของโรงกลั่น POLVANERA นั้นก็คือการรักษา และผสมผสานวิธีการผลิตไวน์แบบโบราณให้เข้ากับวิธีการทำฟาร์มออร์แกนิกและวิธีการทำงานของโรงกลั่นไวน์สมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี
Polvanera นั้นตั้งอยู่ในภูมิภาค Murgia ที่ล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่นที่ไกลสุดลูกหูลูกตา โดยล้อมรอบไปด้วยต้นโอ้คสีขาว และพื้นที่ปลูกองุ่นที่คั่นด้วยกำแพงหิน แม้ว่าภูมิภาคนี้เป็นที่ราบสูง ที่มีความลาดชัน เต็มไปด้วยพื้นที่หินปูนตะปุ่มตะป่ำตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี แต่ภูมิภาคนี้นับเป็นพื้นที่ๆ อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง และเหมาะสมแก่การปลูกไร่องุ่นมาตั้งแต่ในสมัยโรมัน
เกษตรกรในภูมิภาคนี้มักจะใช้การปลูกองุ่นแบบตอนกิ่งและติดตาสำหรับไร่องุ่นรูปแบบดั้งเดิม และการตัดแต่งกิ่งแบบสั้นสำหรับไร่องุ่นรูปแบบสมัยใหม่
โรงกลั่น POLVANERA มีความภาคภูมิใจในภารกิจการสืบทอดรักษาศิลปะการผลิตไวน์แบบดั้งเดิม ในขณะเดียวกันผสานปรับปรุงวิธีการแบบเก่าแก่เข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถรักษารสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และกลิ่นของไวน์ไว้ได้อย่างสมบูรณ์
พื้นที่ไร่องุ่นครอบคลุมพื้นที่กว่า 750 ไร่ โดยจะปลูกแต่องุ่นพันธุ์ท้องถิ่นเท่านั้น ได้แก่ Primitivo, Aleatico, Aglianico, Bianco d/Alessano, Maresco, Machione, Moscato, Minutolo และ Falanghina
หลังจากเก็บเกี่ยวองุ่นเพื่อทำการแปรรูปแล้ว จะมีการพักไวน์ไว้ในถังสแตนเลส โดยไวน์แดงจะถูกบรรจุใส่ขวดแก้วแล้วนำไปบ่มในห้องใต้ดินที่สร้างขึ้นจากการขุดพื้นหินปูน ในอุณหภูมิคงที่ที่ 13 องศาเซลเซียส ถังบรรจุที่ใช้จะไม่มีการยกระดับ ทั้งนี้เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้สูญเสียกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ขององุ่นพันธุ์พื้นเมือง โดยวิธีนี้จะสามารถรับประกันว่าไวน์ที่ผลิตออกมาจะมีรสชาติพันธุ์องุ่นแบบดั้งเดิมได้อย่างแท้จริง
บริษัทผู้ผลิตไวน์ได้รับรางวัลอย่างมากมาย ตั้งแต่ Slow Wine จนถึง Gambero Rosso สำหรับความเพียรพยายาม และความสำเร็จในการผลิตไวน์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในปีพ.ศ. 2564
ไวน์จาก POLVANERA มีจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่ปีพ.ศ. 2563 โดยได้รับการสนับสนุนจากโครงการทุนสหภาพยุโรป ทางบริษัทได้ทำการนำเสนอไวน์ที่มีคุณภาพสูง และได้รับการคัดเลือกอย่างดีภายใต้ชื่อ LA MARCHESANA ที่มาพร้อมขวดเอกลักษณ์เฉพาะของทางแบรนด์
ปัจจุบัน ทางแบรนด์ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และมีการนำเสนอเวิร์คช็อป และห้องเรียนมาสเตอร์คลาสที่ทั้งน่าสนใจและให้ความรู้ได้อย่างดี รวมทั้งมีเปิดรอบการชิมไวน์ทั้งในกรุงเทพฯ และภูเก็ตอีกด้วย
